เด็กหลง - เด็กหลง นิยาย เด็กหลง : Dek-D.com - Writer

    เด็กหลง

    ตัวเรา สิ่งแวดล้อม และครอบครัว

    ผู้เข้าชมรวม

    319

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    319

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 พ.ค. 49 / 01:48 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ในความมืดมิด

      สายตาจับจ้องไปเบื้องหน้า

      เงาเหล็กเย็นเฉียบตั้งตระหง่านเรียงแถวเป็นเส้นตรงตลอดแนว

      คุก

      กรง

      ที่กักขัง

      จำกัดอิสระ

      ...เด็กน้อยตัวผอมซุกตัวนอนลงอยู่ในมุมมืด

      ร่างกายเย็นเฉียบดั่งซากศพ

      ริมฝีปากแห้งผาก

      ลมหายใจอ่อนรวยริน

      เค้ายังไม่ตาย...

      นานเท่าใด

      แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่ทราบดี

      อาศัยเพียงลำแสงที่มุดลอดผ่านซอกหินเล็กๆเป็นตัวบ่งบอกวันเวลาที่หมุนเวียนไปวันต่อวัน

      มันมาอีกแล้ว

      ทุกครั้งที่แสงอาทิตย์จางหาย

      ภายในห้องแคบที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวซากสัตว์

      ลูกกรงเหล็กเย็นเยียบถูกขูดลากด้วยของแข็งชนิดหนึ่ง

      เสียงหวีดร้องยามโลหะถูกกระทบช่างน่าหวาดหวั่นและสะพรึงกลัวนัก

      ในทุกๆค่ำคืน เสียงของมันยิ่งโหยหวนหนักขึ้น รุนแรงขึ้น จนเด็กน้อยแทบไม่อาจทนได้ไหว

      เด็กน้อยได้เฝ้าภาวนาให้กรงเหล็กเบื้องหน้าตนนั้นเข้มแข็งพอจะป้องกันภัยอันตรายจากภายนอกได้

      ภายในความมืด

      มันคือตัวอะไร?

      ข้างนอกนั่นมันเป็นสัตว์ประหลาดอะไร?

      ทำไมมันจึงมาหาเค้าทุกคืน?

      มันต้องการอะไร?

      ร่างกายซูบผอมขดตัวกันอย่างแนบแน่นที่สุด

      ไออุ่นเพียงน้อยนิดช่วยระบายความเหน็บหนาวจากกระแสความกลัวที่คลั่งทะลักออกจากเนื้อสมอง

      รูขุมขนทุกอณูถูกปลุกให้ลุกตั้งชัน

      มันมาอีกแล้ว...

      เสียงฝีเท้าอันแผ่วเบากดทับลงบนพื้นแข็งกระด้าง

      ทุกย่างก้าวของมันคล้ายเหยียบลงบนหัวใจดวงเล็กของเด็กน้อย

      ลมหายใจของเค้าถูกอุดตันด้วยความหวาดกลัว

      ลมหายใจที่ช้าและแผ่วเบา ประหนึ่งจะขาดห้วงลงไปได้ในทุกขณะจิต

      "ครืดดดด............ครืดดดดด.........ครืดดดดดดด!!!"

      เสียงโลหะเสียดสีกันอีกแล้ว

      เขี้ยวเล็บของมันกำลังขัดถูกับลูกกรงอย่างหนักหน่วง

      "ครืดดด... ครืดดดดด ...ครืดดดด!!!"

      สัตว์อสูรด้านนอกนั่นยังไม่มีทีท่าจะละความพยายามลง

      มันกำลังพยายามทำลายกรงเหล็กจริงๆ

      "ครืดด ครืดดด ครืดด ครืดด!!"

      มันกำลังจะทำสำเร็จแล้ว

      ลูกกรงซี่เล็กกำลังถูกทำลายด้วยแรงมหาศาลของอสูรกายภายนอกนั่น

      ความพยายามตลอดหลายวันของมันกำลังจะประสบความสำเร็จ

      ร่างกายเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้าน

      เม็ดเหงื่อแทรกซึมออกมาอาบชโลมร่างกายที่ผ่ายผอม

      ดวงตาคู่กลมโตเบิกกว้างออกเต็มที่

      เค้าพยายามจ้องมองผ่านไปในเงามืด

      หมายจะจับจ้องดูเงื้อมมือของมัจจุราชตัวนั้น

      เงาทะมึนเบื้องหน้าคล้ายขยายใหญ่ขึ้น

      สายตาเด็กน้อยมองเห็นแค่เพียงเงามืดและมืด

      ลมหายใจเล็กน้อยของเค้าขาดหายไปเหมือนคนที่ตายไปแล้ว...

      แสงสีทองเส้นเล็กเล็ดลอดออกมาจากซอกหิน

      ...รุ่งเช้า

      ร่างของสัตว์ประหลาดน่ากลัวอันตรธานไปในชั่วกระพริบตา

      มันไม่ชอบแสงสว่าง

      นี่เป็นเรื่องที่เด็กน้อยทราบดี

      ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกระบายออกมาอย่างรวดเร็ว

      เค้ารอดชีวิตแล้ว

      เด็กน้อยค่อยๆคลายอ้อมกอดของตนเองลง

      ความหวาดกลัวทำให้เค้าต้องนั่งกอดเข่าแน่นจนปวดเมื่อยแขนไปหมด

      แสงสว่างจากเบื้องนอกทำให้เห็นซี่ลูกกรงที่บิดงอจนเกือบขาดออกจากกัน

      มันกำลังจะทำสำเร็จจริงๆ...

      เด็กน้อยทดลองพยายามดูบ้าง

      เค้ารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเหลืออยู่ ง้างลูกกรงเหล็กออก

      ...ไม่สำเร็จ

      ถึงแม้แท่งเหล็กท่อนนั้นจะใกล้ขาดเต็มทีแล้ว

      แต่แรงของเด็กน้อยซูบผอม ก็ไม่อาจทำลายมันได้

      นี่หมายความว่าในค่ำคืนต่อไป เค้าจะต้องเสียท่าให้แก่อสูรร้ายในที่สุด

      ความโกรธแค้นที่ถูกเก็บไว้ในหลายๆคืนจึงถูกระเบิดออก

      เสียงก่นด่า ดังระงมไปทั่วห้องขังเล็ก

      เค้าด่าและสาปแช่งต่อสถานที่นี้

      ด่าและสาปแช่งกรงเหล็กที่จำกัดอิสรภาพเค้าไว้

      ด่าและสาปแช่งโชคชะตาที่นำพาเค้ามายังสถานที่นี่

      ด่าและสาปแช่งอสูรร้ายตัวนั้น ที่เฝ้าจ้องทำร้ายเค้าอยู่ในทุกค่ำคืน

      ความโกรธแค้นแปรเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง

      ความสิ้นหวังแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าสลด

      เสียงก่นด่าถูกแทนที่ด้วยหยดน้ำตาและเสียงร่ำไห้

      ชีวิตของเค้าต้องจบลงในคืนต่อจากนี้แน่นอน

      เด็กน้อยไม่อยากตาย!

      ร่างซูบซีดทรุดลงนั่งกองลงที่ตรงนั้น

      สองมือยังคงบีบรัดกรงเหล็กแน่น

      น้ำตารินไหลออกจากดวงใจที่แตกสลาย

      เด็กน้อยเฝ้าคอยปาฏิหาริย์เกิดขึ้นสักครั้ง

      เค้าไม่อยากติดอยู่ภายในกรงขังอันเปลี่ยวเหงาเช่นนี้

      ปาฏิหาริย์ไม่ได้เกิดได้ง่ายดาย

      และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

      เสียงร่ำไห้หนักหน่วงอยู่เป็นเวลานาน

      ร่างผอมกองอยู่แนบชิดพื้นหินเย็นกระด้าง

      ปาฏิหาริย์ที่รอคอยจึงเกิดขึ้น

      ร่างสตรีงดงามปรากฏขึ้นในชุดสีขาวบริสุทธิ์

      พร้อมรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นและน่าลุ่มหลงเป็นที่สุด

      นางละล่องลงมาดุจนางฟ้าบนมวลเมฆเช่นนั้น

      เด็กน้อยตื่นตะลึงหลงใหลในความงามของเทวนารีเบื้องหน้า

      มีปาฏิหาริย์บังเกิดขึ้น เกิดเป็นนางฟ้าแสนสวยที่ใจดี

      กล้ามเนื้อหัวใจของเค้าบีบรัดรุนแรงด้วยความปีติ

      "ออกมาสิ" ถ้อยคำกระซิบแผ่วเบาจากปากเรียวงาม ดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทเด็กน้อย

      ประตูบานเล็กทางด้านขวามือจึงเปิดออก

      "ตามข้ามา"เสียงนางสวรรค์ดังขึ้นอีกครั้ง

      เด็กน้อยรีบก้าวเดินออกจาห้องขังสู่อิสรภาพเบื้องนอก

      ลมหายใจแห่งเสรีถูกสูดลึกเข้าสู่ปอดน้อยๆ

      เค้าไม่ต้องพบเจอกันสัตว์ประหลาดในยามราตรีอีกต่อไป

      ชีวิตที่ถูกกำหนดให้ตายในค่ำคืนนี้ ได้ถูกปลดปล่อยแล้ว

      เบื้องบน

      เดินตามขั้นบันไดที่สูงชัน ติดตามหลังนางฟ้าชุดขาวบริสุทธิ์

      ปรากฏพื้นหินสี่เหลี่ยมกว้างใหญ่

      พื้นหินสีเหลืองซีดไม่ต่างจากผิวหนังของเด็กน้อยในยามนี้

      ทั้งสี่ทิศรายล้อมไปด้วยกำแพงสูงตั้งตระหง่าน

      ข้างบนนั้นนั่งไว้ด้วยคนแก่เฒ่าหน้าตาเคร่งเครียดหลายสิบคน

      ความรู้สึกดังถูกเหยียบอย่างหนักหน่วงเข้าที่หน้าอกไหลผ่านกระแสอากาศสู่ร่างเด็กน้อย

      พี่นางฟ้าแสนสวยงามค่อยๆเดินออกห่างไป ห่างไป ห่างไป จนไปไกลลิบสายตา

      เด็กน้อยคิดออกเดินตาม แต่ขาของเค้ากลับถูกตรึงอยู่กับที่ไว้ด้วยสายตาโดยรอบทิศ

      ความประหวั่นหวาดกลัวพรั่งพรูเข้าสู่ร่างผ่ายผอมอีกครั้ง

      เสียงตะหวาดครั้งหนึ่งดังก้องไปทั่วพื้นปฐพี

      ยังไม่ทันที่ร่างกายจะทันสะดุ้งตกใจ ชายร่างยักษ์ปรากฏตัวขึ้นพร้อมขวานคมกริบขนาดใหญ่

      "ประหาร!!" เสียงสั่นสะเทือนพื้นพิภพดังขึ้นอีกครั้ง

      ลำคอของเด็กน้อยถูกตัดสะบั้นลอยไปด้วยคมขวานใหญ่ด้ามนั้น...

      เค้า ตาย...

      .

      .

      .

      ร่างของเด็กน้อยถูกนำมาฝังกลบโดยบิดาตนเอง

      ด้วยน้ำตาไหลรินอาบแก้มเหี่ยวย่นของคนวัย ชรา

      "หากพ่อลอบเข้าไปตัดกรงเหล็กนั่นได้เร็วกว่านี้ เจ้าคงไม่ถูกฆ่าตาย"

      พ่อเด็กน้อยพูดพลางคุ้ยดินกลบใบหน้าของบุตรชายตน

      แท้จริงแล้วอสูรกายร้ายที่เด็กน้อยเฝ้าหวาดกลัวในทุกค่ำคืน

      เป็นพ่อของเค้าที่ลอบเข้ามาตัดกรงเหล็กเพื่อช่วยเด็กน้อยนั่นเอง ...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×